การแบ่งประเภทของเครื่องสำรองไฟฟ้า UPS ตามเทคโนโลยีที่ใช้ในการออกแบบ (Technologies and Design)
เป็นการแบ่งประเภทของ UPS ตามการออกแบบ และเทคโนโลยีที่ใช้ โดยในปัจจุบันมีใช้กันมากที่สุด อยู่ 3 เทคโนโลยีดังนี้
1. VFD (Voltage and Frequency Dependent) หรือนิยมเรียกกันว่าแบบ “Offline UPS”
VFD (Voltage and Frequency Dependent) หรือนิยมเรียกกันว่าแบบ “Offline UPS” เครื่องสำรองไฟประเภทนี้มีหลักการทำงานโดยในสภาวะปกติ โหลดจะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟฟ้าหลัก เมื่อระบบไฟฟ้าดับ ตัวโหลดก็จะเลือกใช้ไฟฟ้าจากเครื่องแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรอง (UPS) ซึ่งผลิดไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ Battery โดยเกิดการขัดจังหวะ
2. VI (Voltage Independent) หรือนิยมเรียกกันว่าแบบ "Line Interactive UPS"
VI (Voltage Independent) หรือนิยมเรียกกันว่าแบบ "Line Interactive UPS" เครื่องสำรองไฟประเภทนี้มีหลักการทำงานโดยในสภาวะปกติ โหลดจะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟฟ้าหลัก และมีการป้องกันแรงดันไฟฟ้าตก (Under voltage) แรงดันไฟฟ้าเกิน (Over Voltage) ด้วยฟังก์ชั่นพิเศษคือ AVR (Automatic Voltage Regulator) หรือเครื่องรักษาระดับแรงดันไฟฟ้า voltage stabilizer เมื่อระบบไฟฟ้าดับ ตัวโหลดก็จะใช้ไฟฟ้าที่ได้จากเครื่องแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรอง (UPS) ซึ่งผลิดไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ Battery โดยไม่เกิดการขัดจังหวะะ
3. VFI (Voltage and Frequency Independent) หรือนิยมเรียกกันว่าแบบ "online double conversion"
VFI (Voltage and Frequency Independent) หรือนิยมเรียกกันว่าแบบ "online double conversion" เครื่องสำรองไฟประเภทนี้ เป็นแบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และมั่นใจได้ว่าโหลดจะได้รับการป้องกันจากปัญหาคุณภาพไฟฟ้าตลอดเวลา ซึ่งมีหลักการทำงานดังนี้ ในสภาวะปกติตัวเครื่องสำรองไฟฟ้า จะทำการแปลงแรงดันไฟฟ้าจากแหล่งจากไฟฟ้าหลัก AC เป็นแรงดันไฟฟ้า DC จากนั้นก็จะแปลงแรงดันไฟฟ้า DC ไปเป็น แรงดันไฟฟ้า AC เพื่อเลี้ยงโหลด ที่ทำเช่นนี้เพราะต้องการให้โหลดได้รับแรงดันไฟฟ้าที่เป็น Pure Sin Wave ตลอดเวลา เมื่อระบบไฟฟ้าดับ เครื่องแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรอง (UPS) จะทำการย้ายแหล่งจ่ายไฟฟ้าหลักที่ใช้ผลิดไฟฟ้า ไปเป็นแหล่งจ่ายไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ Battery เพื่อทำการผลิตแรงดันไฟฟ้า AC เพื่อเลี้ยงโหลดต่อไป โดยไม่เกิดการขัดจังหวะ